by NayNoy.Com Posted on 2022-10-14
ภาพจาก เฟซบุ๊ก คุณ BomBom Carbins
Minimal Style หรือ Minimalism (มินิมอลลิสม์) เป็นรูปแบบของงานศิลปะซึ่งเริ่มเป็นกระแสในช่วงปี 1960 โดยศิลปินกลุ่มหนึ่งที่มีความเบื่อหน่ายกระแสงานศิลปะรูปแบบ Abstract Expressionism หรืองานศิลปะที่เน้นสีสัน มีการผสมผสานระหว่างอารมณ์ที่รุนแรง มีลักษณะเฉพาะ เป็นกบฏ และสับสนอลหม่าน เป็นรูปแบบงานศิลปะที่มีอิทธิพลและได้รับความนิยมก่อนหน้านั้น
ซึ่งแนวทางของงานศิลปะรูปแบบ Minimalism ก็จะเป็นในทิศทางตรงกันข้าม คือการถ่ายทอดสิ่งที่เรียบง่าย และตรงไปตรงมาผ่านงานศิลปะ ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น มีความสงบและมักใช้ลักษณะการแสดงออกที่ตรงไปตรงมา เช่น รูปทรงสี่เหลี่ยม วงกลม และหลังจากนั้นอิทธิของ Minimalism ก็เริ่มแพร่ขยายเข้ามาในวงการงานสถาปัตยกรรม ในช่วงยุค 1980 ขึ้นไป โดยแสดงออกผ่านการออกแบบภายในหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีดีไซน์เรียบง่าย ใช้สีน้อยๆ และเน้นความจำเป็น
และอีกส่วนหนึ่งเชื่อกันว่าการตกแต่งสไตล์นี้ ได้รับอิทธิพลมาจากแนวปรัชญาของพุทธนิกาย Zen ของเอเซีย หรือการตกแต่งที่มีที่มาที่ไปจากสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตัวอย่างเช่น นักจัดบ้านชาวญี่ปุ่นที่เชื่อว่า เหตุการณ์ซึ่งมีส่วนในการทำให้ผู้คนชาวญี่ปุ่นหันมานิยมใช้การตกแต่งสไตล์นี้ คือเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผู้คนหันมาเริ่มตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งน้อยชิ้น และเน้นการฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วยพื้นที่โปร่งโล่ง ไม่มีของตกแต่งมากชิ้นมาบดบังสายตา สร้างนิยามของสีหรือดีไซน์ที่ดูสบายตา ช่วยปลอบประโลมจิตใจให้สงบและอบอุ่น
คือคำจำกัดความของสไตล์นี้ การตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย ประหยัด ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบน้อยชิ้น แต่ละชิ้นต้องมากด้วยประโยชน์ อีกทั้งยังต้องไม่ทิ้งดีไซน์เรียบๆ ไม่ว่าจะด้วยรูปทรง สี และต้องไม่มีลวดลายมากนัก ซึ่งการจัดวางต่างๆ จะอยู่ในลักษณะที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์มินิมอล คือ การมีความสมดุลและความผ่อนคลาย มักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ เช่น สีขาว สีเทาอ่อน สีเทาเข้ม รวมถึงการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่ตรงและชาร์ป
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้ มักจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครัน มีความพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป นอกจากนี้ ยังเน้นการจัดสเปสให้มีความว่างและดูกว้างขวาง โปร่งโล่ง สไตล์นี้จึงได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในหมู่คนรุ่นใหม่ที่รักความสงบและชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด ปลอดโปร่ง และมีพื้นที่ว่างเยอะๆ
มีสเปซเหลือใช้เยอะ
ด้วยความที่สไตล์มินิมอลมีการใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นการเลือกใช้แต่ของที่จำเป็น และของตกแต่งเหล่านั้นต้องมีความเรียบง่าย ทำให้การตกแต่งสไตล์นี้ มีพื้นที่ว่างเหลืออยู่มาก คือเป็นอัตราส่วนโดยประมาณ Space 60% : Decoration 40%
ใช้สีน้อยๆ หรือสีโมโนโทนในการตกแต่ง
สไตล์มินิมอลจะใช้โทนสีในการตกแต่งไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้อง โทนสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์มินิมอล ควรเป็นสีออกโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ อย่างเช่น สีขาว เทาอ่อน เทาเข้ม น้ำตาลอ่อน
เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่จำเป็น และมีดีไซน์เฉพาะตัว
เฟอร์นิเจอร์ในแบบมินิมอลสไตล์ ถึงแม้จะมีความเรียบ ไม่เน้นรวดลาย แต่ดีไซน์ต้องดูทันสมัย หรือมีรูปทรงที่น่าสนใจ เช่น โคมไฟเรียบๆ หรือดีไซน์บางเฉียบ เก้าอี้พื้นๆ ที่ไม่มีลวดลาย แต่มีรูปทรงที่ดูมีคอนเซ็ปต์ ลดทอนความเยอะและไม่จำเป็นให้เหลือแต่ความเรียบง่ายที่ดูโดดเด่นในแบบของตัวเอง
การจับเอาความเรียบง่ายของสไตล์มินิมอล
มาผสมผสานกับสไตล์ทรอปิคอลถือเป็นอีกรูปแบบของงานตกแต่งภายในที่ได้รับความนิยม
โดยเฉพาะในสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้นในบ้านเรา
เพราะทรอปิคอลคือสไตล์การตกแต่งที่เน้นให้บรรยากาศ
และความรู้สึกที่ผ่อนคลาย สบายๆ และเป็นธรรมชาติ
วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งก็จะเป็นวัสดุ และเฟอร์นิเจอร์ที่สื่อถึงธรรมชาติ
เช่น ไม้จริง ต้นไม้ หรือของตกแต่งจากวัสดุธรรมชาติ ดังนั้น
เมื่อนำมาจับคู่กับสไตล์มินิมอล ที่เน้นความน้อย เรียบร้อยสะอาด
ก็จะช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายในแบบธรรมชาติให้มีมากขึ้น
สไตล์นี้ก็คือการนำเอาความเรียบง่ายของสไตล์ Minimal
มาผสมผสานกับการตกแต่งที่มีความอบอุ่นในแบบ Cozy กล่าวคือ
เป็นการจับเอาเทคนิคการตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ โทนสี
และการออกแบบของทาง 2 สไตล์ เพื่อให้เกิดความกลมกลืนในแบบใหม่ๆ
หากจะนึกให้เห็นภาพง่ายขึ้น สไตล์นี้เป็นสไตล์ที่นิยมนำไปตกแต่งคาเฟ่
หรือเป็นแบบบ้านของญี่ปุ่นที่มีให้เห็นกันบ่อยๆ โทนสีแบบเอิร์ธโทน
ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย อยู่ง่าย
วัสดุที่ถูกพบเห็นได้บ่อยๆ คือวัสดุประเภทไม้ กับโทนสีอ่อนๆ เช่น
สีน้ำตาลอ่อน สีครีม สีฟ้าอ่อน
สไตล์ลอฟท์เป็นการตกแต่งที่มีจุดเด่นตรงลักษณะของอาคารที่มีความกว้าง เพดานสูง มักตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นสัจจะวัสดุ หรือโชว์ความเรียลที่ไม่ต้องปกปิดใดๆ เช่น การใช้อิฐสีส้มหรือปูนเปลือยก่อผนัง โชว์ให้เห็นท่อเหล็กของภายในอาคาร และการเดินสายไฟโชว์ตามผนังแบบไม่ต้องซ่อนไว้ใต้ฝ้าหรือหลังกำแพง ซึ่งจะเห็นได้ว่าสไตล์ลอฟท์จะเน้นใช้วัสดุและลักษณะเด่นที่เน้นความ "ดิบ" ให้ความรู้สึกถึงโรงงานอุตสาหกรรมหนักในสมัยก่อน ซึ่งเมื่อจับมารวมกับสไตล์มินิมอล ก็จะได้ความรู้สึกเรียบและเท่ในเวลาเดียวกัน มู้ดแอนด์โทนที่ออกมาจะเป็นโทนขาวๆ เทาๆ สร้างบรรยากาศโปร่งโล่งสบายตาได้ดีทีเดียว