by NayNoy.Com Posted on 2022-05-06
การยืดผม อีกหนึ่งวิธียอดฮิตสำหรับสาวๆ ที่อยากมีผมตรงสลวย นอกเหนือจากการยืดผมแบบถาวรแล้ว การทำเคราตินทรีทเมนท์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผมตรงได้เช่นกัน ว่าแต่ทั้งสองวิธีนั้นแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากทุกคนแล้วจ้า
การยืดผมถาวร เป็นการทำเคมีผม ที่เปลี่ยนโครงสร้างเส้นผมจากผมหยิกให้เป็นตรงถาวร หลังการยืดเส้นผมจะตรงแบบทื่อๆ และลีบลงด้วย ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ ซึ่งจะแตกต่างจากการยืดเคราติน หรือ ยืดผมวอลลุ่ม เพราะเส้นผมจะดูมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า และเมื่อมีเส้นผมงอกขึ้นใหม่ ผมก็จะหยิก นอกจากนี้การยืดผมบ่อยๆ ก็จะทำให้เส้นผมแห้งเสีย ขาดฟู ได้ง่าย หากไม่ได้รับการบำรุงที่ดีมากพอ
เพราะเคราติน เป็นโปรตีนจากธรรมชาติ ซึ่งจริงๆ แล้วเส้นผมของเราก็มีอยู่แล้วในชั้นเนื้อผม (Cortex) แต่เวลาที่เราทำสีผม ยืดผม ดัดผม หรือแม้แต่โดนความร้อน รวมถึงการทำเคมีเป็นประจำ จะไปทำให้เคราตินที่มีอยู่ในเส้นผมถูกทำลายไป เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของเรา แห้ง ขาด ฟู ไม่มีน้ำหนัก และจัดทรงยาก
การทำเคราตินทรีทเมนท์ จึงเป็นการเติมเต็มโปรตีนเคราตินที่มีอยู่ในเส้นผมของเราอยู่แล้ว ให้กลับสู่โครงสร้างผม ทำให้ผมของเรากลับมาแข็งแรง นุ่ม เงางาม มีน้ำหนักเรียงเส้น ไม่ลีบแบน ที่สำคัญยังสามารถใช้ทำแทนการยืดผมได้ด้วย
แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะดีกว่าตรงที่ เส้นผมจะทั้งตรงสวยและมีน้ำหนักแบบธรรมชาติ นอกจากนั้นเคราตินยังช่วยลดความหยิกของผมที่เกิดขึ้นใหม่อีกด้วย หลังทำเสร็จก็สามารถสระผม หรือทำอย่างอื่นได้ตามปกติเลย ต่างจากการยืดผมถาวรที่ต้องรออย่างน้อย 3 วัน ถึงจะสระผมหรือมัดผมได้
การยืดผมเคราติน คือ การใช้เคราตินสด หรือ เคราตินสำเร็จรูป เคลือบลงบนเส้นผม เสมือนการเคลือบแก้วให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูตรงอย่างเป็นธรรมชาติ เงางาม แลดูมีสุขภาพดี
ข้อดีของการยืดผมเคราติน คือ ไม่ทำให้ผมเสียเหมือนการใช้น้ำยายืดผมแบบทั่วๆ ไป เพราะการยืดผมด้วยเคราตินล้วนๆ จะเหมือนเป็นการล็อคผมให้ตรงโดยไม่ใช้เคมี และยังเป็นตัวเคลือบเส้นผมไม่ให้โดนทำร้ายได้อีก เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมเสียแบบเกินจะเยียวยา และอยากให้ผมกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย ก็มีอยู่เช่นกัน เพราะการยืดผมเคราตินเป็นเพียงการยืดผมชั่วคราวเท่านั้น จึงอาจต้องมีการเคลือบซ้ำอยู่บ่อยๆ ซึ่งการใช้เคราตินเคลือบเส้นผมเป็นประจำ เคราตินก็จะเข้าไปเคลือบเส้นผมให้ดูหนาขึ้น และอาจส่งผลให้เส้นผมดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ค่อยนุ่มลื่น และทำให้มีผิวสัมผัสที่แข้งกระด้าง รวมไปถึงยากต่อการดัด หรือม้วนลอนให้อยู่ทรงอีกด้วย
ปัญหาสุขภาพเส้นผมเป็นปัญหาที่กวนใจสาว ๆ ผมยาวอยู่ไม่น้อย เพราะไว้ผมยาวทั้งที หลายคนก็อยากจะให้ผมแข็งแรงสุขภาพดี ปล่อยตรงหรือทำทรงไหน ๆ ก็รอด ซึ่งแชมพูและครีมนวดผมหลายสูตรก็ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาและบำรุงเส้นผมสำหรับเส้นผมที่แตกต่างกัน เชื่อว่าหลายคนก็นาจะเคยได้ยินชื่อสารบำรุงผมที่ชื่อว่า “เคราติน” กันมาบ้าง เจ้าเคราตินนี้มีคุณสมบัติดังนี้
สารสกัดจากเคราตินมีส่วนช่วยฟื้นฟูให้ผมกลับมาแข็งแรง เมื่อใช้แล้วจะรู้สึกว่าผมมีความพลิ้วไหวและนุ่มลื่นขึ้นจากเดิม เพราะผมมีความแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
ใครอยากผมเงางามต้องจัดผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราติน เพราะว่าเคราตินจะช่วยเพิ่มความเงางามให้เส้นผม อยู่ที่ไหนผมก็เปล่งประกายสุขภาพดี
ปัญหาผมแตกปลายและผมชี้ฟู จัดยังไงก็ไม่เป็นทรงจะค่อย ๆ หมดไป เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราตินที่จะตรงเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้น และมอบความแข็งแรง ผมเลยค่อย ๆ ฟื้นตัวและกลับมาแข็งแรงดังเดิม
ผมตรงที่ไม่ทื่อจนเกินไปต้องยกให้การยืดแบบเคราติน เพราะยืดแล้วผมดูสุขภาพดี ตรงธรรมชาติ พร้อมเพิ่มความพลิ้วให้เส้นผม และที่สำคัญไม่ทำให้ผมเป็นรอยแม้จะมัดหรือนอนทับ ดีตรงนี้
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราตินมีอยู่หลายแบรนด์มาก และหลากหลายไลน์สินค้า วันนี้เราจะมาแนะนำครีมยืดผมที่มีส่วนผสมของเคราติน เป็นตัวเลือกสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการยืดผมตรง ตัวอย่างแบรนด์ครีมยืดผมเคราตินที่น่าสนใจ เช่น
ครีมสำหรับยืดผมสูตรผสมเคราติน ช่วยให้ผมยืดตรง เงางาม และอยู่ทรงอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวครีมยืดสกัดอย่างเข้มข้น สามารถใช้ได้ทั้งหัวและเห็นผลจริง
ครีมยืดผมจากลอรีอัล ชื่อนี้การันตีความนิยม เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหนังศีรษะของลอรีอัลฮอตฮิตทุกตัว ตัวนี้สำหรับผู้ที่ต้องการยืดผมแบบเคราติน เพื่อผมตรงและนุ่มสลวย ดูสุขภาพดี
ครีมยืดผมที่มีทั้งสูตรสำหรับคนผมเส้นใหญ่และผมเส้นเล็ก เพื่อให้การยืดผมด้วยเคราตินตอบโจทย์การยืดผมทุกคน โดยการบำรุงของสภาพเส้นผมที่ต่างกัน น้ำยายืด Carebeau จึงมีทางเลือกสำหรับสภพผมที่ต่างกัน
น้ำยายืดผมสูตรเคราตินที่ได้รับการรีวิวแบบแน่นมาก ๆ มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมโครงสร้างผมเดิมที่ขาดและเปราะง่ายให้กลับมาแข็งแรง พร้อมยืดตรงสลวยดังใจ
แบรนด์น้ำยายืดผมเคราตินจากญี่ปุ่นก็มาแรงไม่แพ้กัน เพราะสาว ๆ ญี่ปุ่นหลายคนก็นิยมยืดผมแบบเคราติน เพราะยินยันว่ผมนุ่มและตรงขึ้นจริง เหมาะกับคนอยากผมตรง
ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ยืดผมเคราตินเหล่านี้สามารถซื้อได้ที่ Shopee และ Lazada ที่มีตัวแทนจัดจำหน่ายอยู่ เช่น
เคราติน อยู่ในชั้น เนื้อผม (Cortex) ซึ่งเป็นชั้นที่มีความหนาที่สุด และเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผม อันเป็นแหล่งรวมของเม็ดสี ช่องอากาศ โปรตีน เคราติน และเส้นใยโปรตีนที่เกาะเกี่ยวกัน โดยเคราติน เป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผมถึงร้อยละ 90 มีลักษณะการเรียงตัวคล้ายเกล็ดปลา และทำหน้าที่ควบคุมสารต่างๆ ที่เข้าสู่เซลล์เส้นผม
การยืดผม เป็นการทำเคมีผม ที่เปลี่ยนโครงสร้างเส้นผมจากผมหยิกให้เป็นตรงถาวร หลังการยืดเส้นผมจะตรงแบบทื่อๆ และลีบลงด้วย ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ ต่างจากการยืดเคราติน หรือ ยืดผมวอลลุ่ม ที่จะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า และเมื่อมีเส้นผมงอกขึ้นใหม่ ผมก็จะหยิก และการยืดผมบ่อยๆ ก็จะทำให้เส้นผมแห้งเสีย ขาดฟู หากไม่ได้รับการบำรุงที่ดีมากพอ
เคราติน เป็นโปรตีนจากธรรมชาติ ซึ่งจริงๆ แล้วเส้นผมของเราก็มีอยู่แล้วในชั้นเนื้อผม (Cortex) แต่เวลาที่เราทำสีผม ยืดผม ดัดผม หรือแม้แต่โดนความร้อน รวมถึงการทำเคมีเป็นประจำ จะไปทำให้เคราตินที่มีอยู่ในเส้นผมถูกทำลายไป เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของเรา แห้ง ขาด ฟู ไม่มีน้ำหนัก และจัดทรงยาก
การทำเคราตินทรีตเม้นต์ เป็นการเติมเต็มโปรตีนเคราตินที่มีอยู่ในเส้นผมของเราอยู่แล้ว ให้กลับสู่โครงสร้างผม ทำให้ผมของเรากลับมาแข็งแรง นุ่ม เงางาม มีน้ำหนักเรียงเส้น ไม่ลีบแบน และช่วยทำให้เส้นผมตรงสวย สามารถใช้ทำแทนการยืดผมได้ด้วย หลายคนจึงเรียกวิธีการนี้ว่า ยืดผมเคราติน
แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะดีกว่า
เคราตินทรีตเม้นต์เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีปัญหาเส้นผมแบบต่างๆ แต่ก็อยากที่จะมีผมเรียบตรง ไม่ชี้ฟู ไม่ลีบแบน ทั้งเส้นผมที่อยากเลี่ยงการยืดถาวร หรือสภาพเส้นผมที่ไม่สามารถยืดได้จริงๆ และยังเหมาะกับคนที่ผมเบาฟุ้งชี้ฟูขาดน้ำหนัก และต้องการให้เส้นผมอ่อนนุ่ม เงางาม และจัดทรงง่ายมากขึ้น
1.การทำเคราตินเป็นการบำรุงจากภายนอก เสมือนการเคลือบผมเอาไว้ เพราะฉะนั้นจึงมีการหลุดออกไปได้เรื่อยๆ จากการสระผม หรือ การทำเคมี
2. เคราติน มีคุณสมบัติในการยืดผมชั่วคราวเท่านั้น โดยจะช่วยตรึงผมให้ตรงได้นานประมาณ 1-2 เดือน หรือ เมื่อผ่านการสระผมประมาณ 10 ครั้ง เส้นผมก็จะค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาพเดิม ถ้ามีเส้นผมงอกขึ้นใหม่ ก็อาจต้องไปยืดโคนผมซ้ำแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นโคนผมจะดูหยิกต่างจากเส้นผมส่วนปลาย
3. อย่างที่บอกว่า เคราติน มีคุณสมบัติในการยืดผมแค่ชั่วคราว ดังนั้นคนที่ผมหยิก หรือ ผมหยักศก ในกรณีที่เส้นผมยังสุขภาพดี แล้วอยากมีผมตรงนาน ขี้เกียจต้องทำผมบ่อยๆ การเลือกยืดผมถาวรอาจเหมาะกว่า เพียงแต่ต้องอาศัยการขยันบำรุงหน่อยเท่านั้น
4. เคราตินสามารถทำให้ผมตรงได้ในเคสผมฟู ไม่ใช่เส้นผมหยิกหรือหยักศก เพราะเป็นเหมือนการแค่อัดโปรตีนเข้าสู่เส้นผม ไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างแบบการยืดผม (ซึ่งมีเปอร์ออกไซด์เป็นตัวทำลายพันธะ) แต่เคราตินไม่สามารถทำลายโครงสร้างเส้นผมจากหยิกให้เป็นตรงได้ เพราะสารตัวที่ว่าไม่มีในเคราตินทรีตเม้นต์นั่นเอง
5. เคราติน มีทั้งแบบราคาถูกไปจนถึงราคาแพง บางร้านก็ตั้งราคาหลักหลายพันเลยทีเดียว เพราะเคราตินที่ใช้เป็นของแท้ ซึ่งมีราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละหลายพันบาท ทั้งนี้ก็ควรระวังร้านที่ทำราคาถูกมากเกินนไปด้วย เพราะอาจจะใช้เคราตินสังเคราะห์ที่มีสารฟอร์มาลดีไฮด์แทน
6. การทำเคราตินทรีตเม้นต์ นอกจากจะทนต่อการทำเคมีครั้งต่อไปไม่ค่อยได้แล้ว ยังทนต่อซัลเฟต (สารทำความสะอาด ช่วยทำให้เกิดฟอง ที่อยู่ในแชมพู) และคลอรีนไม่ได้ด้วย
7. หลังจากทำเคราติน สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ ซัลเฟต (SLS) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดฟอง และไม่ดีต่อสุขภาพเส้นผม การใช้น้ำมันมะพร้าวหมักผม
การยืดผมเคราติน คือ การใช้เคราตินสด หรือ เคราตินสำเร็จรูป เคลือบลงบนเส้นผม เสมือนการเคลือบแก้วให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูตรงอย่างเป็นธรรมชาติ เงางาม แลดูมีสุขภาพดี
เคราตินคืออะไรใครรู้บ้าง? เคราติน คือ เส้นใยผิวหนังชนิดหนึ่งของชั้นผิวหนังกำพร้า ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำ ลดอันตรายจากรังสี UV ที่จะมาทำร้ายผิว ทั้งยังเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของผิวหนัง เส้นผม เล็บ และส่วนต่างๆ ของร่างกาย ถ้าร่างกายขาดเคราตินก็จะส่งผลโดยตรงต่ออวัยวะเหล่านี้ ผิวหนังจะแห้งแตก ลอกเป็นขุย เล็บฉีกหรือเปราะง่าย ผมหยาบกระด้าง ชี้ฟู จัดทรงยาก กระทั่งผมบาง ผมร่วง ผมช็อต ก็เป็นสาเหตุจากการที่ร่างกายขาดเคราตินเช่นกัน ในปัจจุบันนี้เราจึงเห็นได้ว่ามีการนำผลิตภัณฑ์ที่มีเคราตินมาใช้รักษาบำรุงผิวและผมที่มีปัญหามากมาย โดยเฉพาะการทำเคราตินบำรุงผม แต่ก่อนที่จะทำอะไรเราก็ควรศึกษาผลลัพธ์ที่จะได้และผลข้างเคียงกันก่อน UndubZapp จึงชวนทุกคนมารู้ 5 เรื่องก่อนการทำเคราตินผม ตามไปดูพร้อมๆ กันเลย
ก่อนที่จะทำเคราตินให้ผม จำไว้ว่า ไม่ว่าจะเรียกว่า เคราตินทรีตเมนต์ หรือ บราซิลเลี่ยน โบลว์เอ้าท์ (Brazillian Blowout) มันก็คืออย่างเดียวกัน ซึ่งก็คือการทำให้ผมตรงสลวยมีน้ำหนักนั่นแหละจ้ะ ถ้าสาวๆ ต้องการให้ผมของตัวเองเรียบตรงสวย ไม่ชี้ฟู ประหนึ่งหนีบผมมาตลอดทั้งวัน ก็ตรงไปหาเคราตินโลด ถ้าไม่ต้องการความเรียบตรงอะไรขนาดนั้น เราแนะนำให้หาทรีตเมนต์บำรุงแบบอื่นๆ จะเหมาะกว่านะจ๊ะ
จริงอยู่ว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผมส่วนใหญ่ก็มีส่วนผสมของเคราตินกันหมดนั่นแหละ ซึ่งการที่ทุกอย่างมีเคราตินผสมก็ทำให้หลายๆ คนไม่มั่นใจว่า สรุปแล้วที่ใช้ๆ อยู่ทุกวันนี้คือเท่ากับทำเคราตินทรีตเมนต์แล้วหรือเปล่า ความจริงแล้วเคราตินไม่ใช่ฮีโร่กู้ผมแค่ตัวเดียวนะ ยังมีวิธีการบำรุงอื่นๆ อีกมากมายที่อาจให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจสำหรับคุณอย่างถ่องแท้ ขอให้เข้าใจว่าการทำเคราตินจะทำให้ผมตรงเป๊ะไปประมาณ 4-6 เดือน
จริงอยู่ว่าเคราตินเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของผิวหนัง และร่างกายของเราก็สามารถสร้างเคราตินขึ้นมาเองได้ แต่บอกไว้เลยว่าเคราตินทรีตเมนต์และผลิตภัณฑ์ทั้งหลายแหล่ในท้องตลาดที่บอกว่ามีเคราตินตอนนี้น่ะ หายากมากที่จะเจอผลิตภัณฑ์ที่ออแกนิค ไร้สารเคมีใดๆ อย่างใดแท้จริง คนที่มีผมหยิกหรือคนที่ผมเสียแห้งกรอบแล้วอยากทำเคราตินให้ผมตรงล่ะก็ ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องได้สัมผัสกับสารฟอร์มาลดีไฮด์แน่
ถึงวิธีการทำทรีตเมนต์จะไม่ยุ่งยากเท่าการศัลยกรรม แต่เอาจริงๆ ขั้นตอนการบำรุงรักษาผมนี่ก็ทำให้เหนื่อยไม่แพ้กันเลยล่ะ หลังทำเคราตินทรีตเมนต์เนี่ย ต้องพยายามไม่จับ ไม่สัมผัส ไม่แตะต้องผมไปเลยนะ อย่างน้อยๆ ก็ 3 วันหลังจากนั้น แล้วในช่วงแรกนี้ๆ ชีวิตจะลำบาก รวบผมไม่ได้ ติดกิ๊บไม่ได้ ทำผมหางม้าไม่ได้ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นรอย สระผมไม่ได้อีกต่างหาก นี่แหละหนาที่เขาว่าอยากสวยก็ต้องทน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าผมของคุณเป็นผมทำสีล่ะก็ เป็นไปได้สูงว่าหลังทำเคราตินทรีตเมนต์ สีผมคุณอาจจะเฟดลงด้วย
ผลที่ตามมาที่ว่าเราหมายถึงผลลัพธ์หลังการทำเคราตินนั่นเอง เพราะถึงแม้ว่าเราจะอ่านรีวิวมาเป็นร้อยเป็นพันอัน อ่านข้อมูลร้านทำผมมามากแค่ไหน แต่มนุษย์ทุกคนล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า ถ้าคุณไปทำเคราตินทรีตเมนต์แล้วจะได้ผลลัพธ์ตามแบบภาพที่เห็นเป๊ะๆ บางคนที่ผมหยิกมากมาทำเคราตินก็อาจทำให้ผมตรงได้ไม่ถึง 100% ดังนั้นเผื่อใจไว้หน่อยว่ามันอาจไม่เวิร์คกับเราเท่าที่หวัง
ปัญหาสุขภาพเส้นผมเป็นปัญหาที่กวนใจสาว ๆ ผมยาวอยู่ไม่น้อย เพราะไว้ผมยาวทั้งที หลายคนก็อยากจะให้ผมแข็งแรงสุขภาพดี ปล่อยตรงหรือทำทรงไหน ๆ ก็รอด ซึ่งแชมพูและครีมนวดผมหลายสูตรก็ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาและบำรุงเส้นผมสำหรับเส้นผมที่แตกต่างกัน เชื่อว่าหลายคนก็นาจะเคยได้ยินชื่อสารบำรุงผมที่ชื่อว่า เคราติน กันมาบ้าง เจ้าเคราตินนี้มีคุณสมบัติดังนี้
สารสกัดจากเคราตินมีส่วนช่วยฟื้นฟูให้ผมกลับมาแข็งแรง เมื่อใช้แล้วจะรู้สึกว่าผมมีความพลิ้วไหวและนุ่มลื่นขึ้นจากเดิม เพราะผมมีความแข็งแรงขึ้นนั่นเอง
ใครอยากผมเงางามต้องจัดผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราติน เพราะว่าเคราตินจะช่วยเพิ่มความเงางามให้เส้นผม อยู่ที่ไหนผมก็เปล่งประกายสุขภาพดี
ปัญหาผมแตกปลายและผมชี้ฟู จัดยังไงก็ไม่เป็นทรงจะค่อย ๆ หมดไป เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราตินที่จะตรงเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้น และมอบความแข็งแรง ผมเลยค่อย ๆ ฟื้นตัวและกลับมาแข็งแรงดังเดิม
ผมตรงที่ไม่ทื่อจนเกินไปต้องยกให้การยืดแบบเคราติน เพราะยืดแล้วผมดูสุขภาพดี ตรงธรรมชาติ พร้อมเพิ่มความพลิ้วให้เส้นผม และที่สำคัญไม่ทำให้ผมเป็นรอยแม้จะมัดหรือนอนทับ ดีตรงนี้
ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของเคราตินมีอยู่หลายแบรนด์มาก และหลากหลายไลน์สินค้า วันนี้เราจะมาแนะนำครีมยืดผมที่มีส่วนผสมของเคราติน เป็นตัวเลือกสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการยืดผมตรง ตัวอย่างแบรนด์ครีมยืดผมเคราตินที่น่าสนใจ เช่น
ครีมสำหรับยืดผมสูตรผสมเคราติน ช่วยให้ผมยืดตรง เงางาม และอยู่ทรงอย่างเป็นธรรมชาติ ตัวครีมยืดสกัดอย่างเข้มข้น สามารถใช้ได้ทั้งหัวและเห็นผลจริง
ครีมยืดผมจากลอรีอัล ชื่อนี้การันตีความนิยม เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับหนังศีรษะของลอรีอัลฮอตฮิตทุกตัว ตัวนี้สำหรับผู้ที่ต้องการยืดผมแบบเคราติน เพื่อผมตรงและนุ่มสลวย ดูสุขภาพดี
ครีมยืดผมที่มีทั้งสูตรสำหรับคนผมเส้นใหญ่และผมเส้นเล็ก เพื่อให้การยืดผมด้วยเคราตินตอบโจทย์การยืดผมทุกคน โดยการบำรุงของสภาพเส้นผมที่ต่างกัน น้ำยายืด Carebeau จึงมีทางเลือกสำหรับสภพผมที่ต่างกัน
น้ำยายืดผมสูตรเคราตินที่ได้รับการรีวิวแบบแน่นมาก ๆ มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมโครงสร้างผมเดิมที่ขาดและเปราะง่ายให้กลับมาแข็งแรง พร้อมยืดตรงสลวยดังใจ
แบรนด์น้ำยายืดผมเคราตินจากญี่ปุ่นก็มาแรงไม่แพ้กัน เพราะสาว ๆ ญี่ปุ่นหลายคนก็นิยมยืดผมแบบเคราติน เพราะยินยันว่ผมนุ่มและตรงขึ้นจริง เหมาะกับคนอยากผมตรง
ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ยืดผมเคราตินเหล่านี้สามารถซื้อได้ที่ Shopee และ Lazada ที่มีตัวแทนจัดจำหน่ายอยู่ เช่น