ผมเเตกปลาย เกิดจากอะไร?

ผมเเตกปลาย เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าผมของเรากำลังเเห้งเสีย ซึ่งจะมีลักษณะเป็นปลายผมที่เปราะบาง เเข็งกระด้างเเละปลายผมจะเเตกออกมาเป็นเเฉก ๆ ซึ่งต้นเหตุของผมเเตกปลายนั้นเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น

• ความร้อนทำร้ายเส้นผมได้ ไม่ว่าจะเป็น ไดร์ เครื่องหนีบ หรือ เครื่องม้วนผม ความร้อนจากอุปกรณ์ทำผมเหล่านี้จะทำให้ผมแห้งเสียและแตกปลายในที่สุดหากไม่ได้รับการดูแลและป้องกันด้วยสเปร์กันความร้อนก่อนการจัดแต่งทรงผม
• สระผมบ่อย การสระผมบ่อยเเม้ว่าจะทำให้หนังศีรษะสะอาดก็จริง เเต่ถ้าหากเราสระผมบ่อยจนเกินไป ก็จะทำให้เส้นผมสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ เมื่อความชุ่มชื่นหายไป ก็อาจส่งผลทำให้ผมเเห้งและขาดความเงางาม
• ผลิตภัณฑ์เคมี การทำเคมีกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็น การดัด การย้อม การฟอกสี สิ่งเหล่านี้ทำร้ายเส้นผมรุนเเรง หากไม่ได้รับการดูแลบำรุงที่ดี เส้นผมก็จะแห้งแตกปลาย และเปราะขาดง่าย
• สภาพอากาศ การอยู่ในสภาพอากาศที่ส่งผลเสียต่อผม ไม่ว่าจะเป็น การตากเเดด และอากาศร้อน รวมถึงสภาพอากาศที่เเห้งหรือชื้น ก็เป็นสาเหตุทำให้ผมเเห้งเสียได้เช่นเดียวกัน

ผมแตกปลาย คือการที่ผมบริเวณส่วนปลายแตกออกเป็นแฉกๆ เกิดขึ้นได้จากการที่คิวติเคิลที่ปกคลุมผมส่วนนอก หรือเกล็ดผมหลุดออกจากเส้นผม และทำให้เส้นผมปราศจากเกาะป้องกันในที่สุด ผมแตกปลายมักจะเกิดกับผมที่แห้ง และเส้นผมที่แตกปลายไปแล้ว ก็ไม่สามารถกลับมาติดกันใหม่เหมือนเดิมได้

สาเหตุของผมแตกปลาย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากผมขาดระหว่างการหวีเส้นผมที่พันกัน รวมทั้งการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมบ่อยๆ ซึ่งใช้ความร้อน และทำให้ผมแห้งกรอบ รวมไปถึงการไม่ใช้ครีมบำรุงผม และการทำเคมีต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นผม และนำมาสู่ปัญหาผมแตกปลายได้ในที่สุด

สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือ ผมแตกปลายมีถึง 6 แบบเลยด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะบ่งบอกได้ถึงสุขภาพและความเสียหายของเส้นผมในระดับที่แตกต่างกันไป

1. Baby Spilt

ผมแตกปลายแบบแรกมีลักษณะแยกเป็น 2 แฉกที่ปลายผมเล็กน้อย (ไม่เกิน 0.5 ซม.) บ่งบอกว่าเส้นผมของเรากำลังขาดสารอาหาร แต่อาการก็ถือว่าอยู่ในระดับเริ่มต้น ยังพอบำรุงและรักษาได้ทันอยู่ ด้วยการใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้ง

2. Y Spilt

ผมแตกปลายแบบนี้หน้าตาใกล้เคียงกับแบบแรก คือ ปลายผมจะแยกออกเป็น 2 แฉกเท่าๆ กัน เหมือนลักษณะของตัว “Y” และมีความยาวช่วงที่แตกประมาณ 1 ซม. ผมแตกปลายแบบนี้ก็ยังถือว่าไม่รุนแรงมาก ถ้ากลับมาบำรุงผมหนักๆ ก็พอจะมีโอกาสที่ผมจะกลับมาดูดีได้เหมือนเดิมได้

3. Taper

ผมแตกปลายแบบนี้ ปลายผมจะไม่ได้แยกออกเป็นแฉก แต่จะบางลงเหมือนถูกเฉือนออกไป ซึ่งถือว่าเป็นแบบที่อาการแย่อยู่เหมือนกัน บ่งบอกว่าเส้นผมกำลังขาดสารอาหารหนักมาก และไม่สามารถเจริญเติบโตได้อีก บำรุงไปก็ไม่มีประโยชน์ ทางออกเดียวที่ดีที่สุดก็คือเล็มปลายผมออกซะ

4. Incomplete

เส้นผมที่แตกออกตรงส่วนกลาง จนกลายเป็นรูโหว่ระหว่างเส้นผม จะเห็นได้ชัดเมื่อกำผมขึ้นมาชิดกัน ผมแตกปลายแบบนี้จะทำให้ผมขาดร่วงได้ง่ายมากๆ เวลาหวีผมจึงต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ หากใครมีผมแตกปลายแบบนี้แนะนำให้ใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ หรือ ถ้าหมักผมได้ด้วยก็จะยิ่งดี

5. Tree

ผมแตกปลายแบบนี้เส้นผมจะแตกออกเป็นหลายปลายเหมือนแขนงต้นไม้ ถือว่าเป็นผมแตกปลายที่อาการหนักเลยทีเดียว เพราะเส้นใยของผมเสียหายไปหมดแล้ว ทางเดียวที่จะเยียวยาเส้นผมแตกปลายแบบนี้ได้คือจะต้องตัดทิ้งเท่านั้น เพราะผมแตกปลายแบบนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้อีก

6. Feather

ผมแตกปลายแบบสุดท้ายมีลักษณะแตกปลายเป็นส่วนย่อยๆ เหมือนขนนก เรียกได้ว่าผมแตกปลายแบบนี้ก็เกินเยียวยาเช่นกัน ถ้าไม่ยอมตัดทิ้งก็อาจจะยิ่งทำให้ผมของเราแตกปลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทางที่ดีจึงควรเล็มปลายผมออกซะ และก็ควรบำรุงผมหนักๆ เพิ่มเติมด้วย

สาเหตุของผมแตกปลาย

ผมแตกปลาย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น สภาวะแวดล้อมที่ทำร้ายเส้นผม เช่น แดดแรงๆ หรือ อากาศที่ชื้น, การหวี หรือ แปรงผมที่แรงจนเกินไป, การใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อยๆ ,การทำเคมี เช่น การดัด ยืด ทำสี และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเส้นผม ทั้งยังรวมไปถึงการขาดสารอาหาร จำพวกวิตามิน และโปรตีน ที่ไม่เพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงเส้นผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมแตกปลายได้ และหากไม่ได้รับการบำรุงดูแลอย่างถูกต้อง อาจส่งผลทำให้เส้นผมแตกปลายไปเรื่อยๆ และขาดหลุดร่วง จนทำให้ผมบางได้ในที่สุด

วิธีแก้ไขและป้องกันผมแตกปลาย

 หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ที่ใช้ความร้อน การเป่าไดร์ให้แห้ง อาจใช้พัดลมหรือไดร์เป่าผมโหมดลมเย็น แต่หากจำเป็นต้องใช้ความร้อน ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนเป่าผมหรือหนีบผม เช่น สเปรย์ฉีดผมกันความร้อนเป็นตัวช่วย

• แนะนำให้ใช้แชมพู สูตรสำหรับผมแตกปลายหรือผมแห้งเสีย และควรใช้ครีมนวดผมสูตรเดียวกัน บำรุงผมร่วมด้วย เพราะส่วนใหญ่จะเน้นส่วนผสมที่ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผม อันเป็นสาเหตุหลักของผมแตกปลาย บางสูตรยังช่วยปิดเกล็ดผม หรือช่วยเติมเคราตินให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น
• หลังสระผมด้วยแชมพูและครีมนวดผม ควรใช้เซรั่ม หรือลีฟออน ลูบช่วงกลางถึงปลายผม (เน้นบริเวณที่ผมแตกปลาย) เพราะเซรั่มและลีฟออนไม่ต้องล้างออกแบบครีมนวดผม จึงช่วยบำรุงผมได้ยาวนานกว่า นอกจากนั้น ถ้าใช้ก่อนเป่าไดร์ จะช่วยปกป้องเส้นผมจากการสูญเสียความชุ่มชื้นเพราะความร้อนได้ด้วย
• แนะนำให้หมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำผึ้ง ที่มีคุณสมบัติช่วยแก้ปัญหาผมแห้งเสีย หรือ ใช้ทรีตเมนต์มาส์กหมักผม อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้นและเส้นผมแข็งแรง ไม่เปราะขาดหรือแตกปลายง่าย
• หากต้องอยู่กลางแดด อยู่ในที่ลมแรงหรืออากาศที่แห้งเป็นเวลานาน ควรใช้ผ้าคลุมผม หรือ ใช้วิธีปกป้องเส้นผมจากแสงแดด เช่น เกล้าผม หรือถักเปีย เพื่อเก็บเส้นผมไม่ให้ต้องเจอกับแสงแดดจ้าเป็นเวลานาน หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องการสูญเสียความชุ่มชื้นของเส้นผม
• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่รุนแรงต่อเส้นผม เช่น ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหรือขยี้ผมที่เปียกแบบแรงๆ การหวีหรือสางผมอย่างรุนแรง ม้วนหรือมัดผมแน่นๆ เป็นระยะเวลานาน
• การรับประทานอาหารให้ครบหมู่ และเพียงพอ ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เส้นผมคงความมีสุขภาพดีอยู่เสมอ และไม่เกิดปัญหาผมแตกปลาย โดยสามารถเข้าไปดูอาหารเพื่อผมสุขภาพดีได้ที่นี่
• หากผมของคุณแห้งและแตกปลายมาก (ลักษณะแบบ Tree หรือ Feather) แนะนำให้ตัดปลายที่มีปัญหาออกหรือตัดผมให้สั้นลง เพราะเส้นผมลักษณะนี้เสียหายมากและยากที่จะฟื้นคืนสภาพได้ การตัดผมส่วนที่มีปัญหา หรือตัดสั้นจะทำให้คุณสามารถดูแลและบำรุงผมได้ดีกว่า นอกจากนั้นสารอาหารจะเข้าไปบำรุงเส้นผมได้ดีกว่า ทำให้เส้นผมแข็งแรงและฟื้นคืนสภาพได้เร็วขึ้น
• สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาผมแตกปลายไม่มาก หรือกำลังบำรุงและเลี้ยงผมให้ยาว แนะนำให้ หมั่นเล็มปลายผมที่เริ่มแห้งหรือแตกปลาย อย่างน้อยทุก 1-2 เดือน

โดยผมแตกปลายอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

• สระผมบ่อยเกินไป
• ใช้แชมพูสูตรที่มีความเข้มข้นหรือรุนแรงของสารมากเกินไป
• ใช้เครื่องเป่าผม เครื่องม้วนดัดผม หรือเครื่องยืดผมมากเกินไป
• ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่มีสารเคมีที่อาจสร้างความเสียหายแก่ผมได้ เช่น การย้อมสีผม
• การทำผมบางทรง เช่น การมัดผมหางม้า หรือการรวบม้วนผมขึ้นไป
• ตากแดด ตากลม หรือผมสัมผัสกับสภาพอากาศแห้ง ๆ
• มีภาวะโภชนาการที่ไม่ดี
• รับประทานยาที่อาจส่งผลข้างเคียงทำให้ผมแห้งเสียและแตกปลายได้

วิธีรับมือและแก้ปัญหาผมแตกปลาย

ปัญหาผมแตกปลายไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ นอกจากการเล็มตัดปลายผมที่แตกและแห้งเสียนั้นออกไป แต่อาจบำรุงดูแลและป้องกันผมเส้นอื่น ๆ แตกปลายได้อีกในอนาคต ด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม เช่น

การหมักผมด้วยครีมหมักผมหรือครีมนวดทั่วไป ครีมหมักผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผมได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผมแข็งแรง และลดปัญหาการเกิดผมแตกปลาย ส่วนครีมนวดผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงเส้นผมหลังการสระผม ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมได้เช่นกัน ทั้งนี้ ผู้บริโภคควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและเหมาะสมกับสภาพผมของตน โดยสามารถใช้ครีมหมักผมหรือครีมนวดผมที่หาซื้อได้ทั่วไปตามห้างร้านหรือร้านขายยา ควรศึกษาข้อมูลด้านส่วนผสมและวิธีการใช้บนฉลากผลิตภัณฑ์ให้ถี่ถ้วน พร้อมตรวจสอบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองอย่างถูกต้อง และควรปรึกษาเภสัชกรก่อนตัดสินใจซื้อหรือเมื่อมีข้อสงสัยใดใดเสมอ

เมื่อถึงขั้นตอนการหมักผม ให้ใช้ครีมหมักผมหรือครีมนวดหมักผมทิ้งไว้ในเวลาที่สมควรตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยควรหวีแบ่งจัดเรียงเส้นผมในระหว่างที่หมักผม เพื่อให้ครีมบำรุงซึมเข้าสู่เส้นผมจากโคนผมไปจนถึงปลายผม

การหมักผมด้วยส่วนผสมอื่น ๆ นอกจากครีมหมักผมและครีมนวดผมตามท้องตลาดแล้ว อาจใช้ส่วนผสมตามธรรมชาติบางชนิดมาหมักบำรุงสุขภาพเส้นผม โดยอาจใช้วัตถุดิบในการหมักผมดังต่อไปนี้

• แพนทีนอล (Panthenol) หรือ วิตามิน บี5 (Vitamin B5) เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย และช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่เส้นผม ทำให้ผมแข็งแรง รักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม และฟื้นฟูสภาพผมที่แห้งเสียถูกทำลาย โดยแพนทีนอลมักเป็นส่วนผสมในครีมหมักผมทั่วไปอยู่แล้ว และร่างกายยังสามารถได้รับแพนทีนอลจากการรับประทานอาหารบางชนิดด้วย เช่น บร็อคโคลี่ ซีเรียลธัญพืช เห็ด เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว เป็นต้น
• น้ำมันมะกอก (Olive Oil) อาจช่วยฟื้นฟูสภาพปลายผมที่แห้งเสียและแตกปลายได้ ด้วยการชะโลมน้ำมันมะกอกลงบนปลายผมที่เสียขึ้นมาประมาณ 2 นิ้ว หรือหมักนวดน้ำมันมะกอกตั้งแต่โคนผมจนถึงปลายผมแล้วจึงล้างออก
• น้ำมันสวีทอัลมอนด์ (Sweet Almond Oil) เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและทำให้ผมมีน้ำหนัก โดยสามารถหมักร่วมกับครีมหมักผมหรือครีมนวดอื่น ๆ หรือสามารถหมักชะโลมไปตามเส้นผมในขณะที่ผมเปียก
• น้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) เป็นน้ำมันที่สกัดจากผลของต้นอาร์แกน ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นของประเทศโมร็อกโก น้ำมันอาร์แกนจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม และช่วยให้ผมเงางาม โดยสามารถหมักน้ำมันได้ทั้งในขณะที่ผมเปียกหรือผมแห้ง จากนั้นหวีผมให้ทั่ว เพื่อให้น้ำมันกระจายตัวและซึมเข้าบำรุงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง

วิธีป้องกันผมแตกปลาย

แม้ว่าปัญหาผมแตกปลายจะเป็นเรื่องที่ป้องกันได้ยาก แต่อาจปฏิบัติตามแนวทางที่ช่วยลดการเกิดผมแตกปลาย หรือลดระดับความรุนแรงของผมที่แห้งเสียและแตกปลายได้ เช่น

• หวีผมเบา ๆ ไม่หวีผมบ่อยเกินไป และเลือกใช้แปรงที่มีซี่หรือขนนิ่ม ยืดหยุ่นได้ และถนอมสภาพผม
• ใช้หวีที่มีความห่างหวีผมในขณะที่ผมเปียก
• หลีกเลี่ยงการเช็ดผมจนแห้งด้วยผ้าเช็ดตัว และเช็ดผมเบา ๆ
• ไม่สระผมทุกวัน หรือไม่สระผมบ่อยจนเกินไป นอกจากจะมีสภาพหนังศีรษะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษที่ทำให้ต้องสระผมทุกวัน
• เลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ โดยเฉพาะสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือสูตรที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม
• ใช้ครีมนวดผมหลังสระผม หมักผมเป็นประจำ หรือใช้เพียงครีมนวดผมและครีมหมักผม โดยไม่ต้องใช้แชมพูสระผม
• ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อน หลีกเลี่ยงหรือลดการใช้ไดร์เป่าผม และอุปกรณ์ทำผมที่ทำให้เกิดความร้อนจนผมอาจแห้งเสียและแตกปลายได้ เช่น เครื่องม้วนผม เครื่องยืดผม
• เพิ่มเวลาในการทำทรีตเม้นต์รักษาผม เช่น ในระหว่างที่ย้อมผม หรือดัดผม
• สวมหมวกคลุมผมและศีรษะหากต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว แห้งแล้ง หรือมีลมแรง
• สวมหมวกคุลมผมในขณะว่ายน้ำ
• ตัดแต่งและเล็มปลายผมอยู่เสมอ หรือตัดผมทุก ๆ 6 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงหรือลดการทำผมที่อาจทำลายเส้นผมได้ เช่น การทำสีผม การยืดผม
• รับประทานอาหารที่มีสารช่วยบำรุงผม หรือรับประทานวิตามินบำรุงผมภายใต้คำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร เช่น ไบโอติน และกรดโฟลิค
• หลีกเลี่ยงหรือลดการทำผมและทรงผมที่อาจทำให้เกิดผมแตกปลายได้ เช่น การมัดผมหางม้า การม้วนรวบผม โดยอาจเลี่ยงไปใช้วิธีการรวบผมหลวม ๆ และใช้ยางรัดผมที่นุ่มขึ้นแทน