by NayNoy.Com Posted on 2022-03-18
1.ตรวจสอบความแรงของสัญญาณของคู่สนทนาทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากความแรงของสัญญาณจะส่งผลต่อความชัดเจนของเสียง
2.หากการโทรนี้ ไม่ได้มาจากแอปการโทรที่เป็นค่าเริ่มต้นของเครื่อง ให้ทำการอัปเดตเวอร์ชันของแอปการโทรนั้น
3.ตรวจสอบว่าคุณได้เปิดใช้งานไมโครโฟนอยู่ โดยคุณสามารถทดสอบไมโครโฟนได้ที่แอปบันทึกเสียง
4.เชื่อมต่อหูฟังเข้ากับโทรศัพท์ เพื่อตรวจสอบว่าคนอื่นได้ยินเสียงของคุณหรือไม่
5.ล้างแคชและข้อมูลของแอปการโทร
หากต้องการตรวจสอบเวอร์ชัน ColorOS ของคุณคลิกที่นี่เพื่อดูคำแนะนำ
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป ไปที่ [การตั้งค่า] > [การจัดการแอป] > [รายการแอป] > แตะที่ไอคอนจุด 2 จุด ที่มุมบนขวา > [แสดงระบบ] > [โทรศัพท์] > [การใช้พื้นที่จัดเก็บ] > [ล้างข้อมูล]
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 5.0 ถึง 6.1 ไปที่ [การตั้งค่า] > [การจัดการแอป] > [แสดงกระบวนการของระบบ] > [โทรศัพท์] > [การใช้พื้นที่จัดเก็บ] > [ล้างข้อมูล]
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 3.1 และ ColorOS เวอร์ชัน 3.2 ไปที่ [การตั้งค่า] > [การจัดการแอป] > [ทั้งหมด] > [โทรศัพท์] > [ล้างข้อมูล]
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 3.0 ไปที่ [การตั้งค่า] > [การตั้งค่าเพิ่มเติม] > [การจัดการแอปพลิเคชัน] > [ทั้งหมด] > [โทรศัพท์] > [ล้างข้อมูล]
6.ล้างแคชและข้อมูลสำหรับการจัดการการโทร
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 7.0 ขึ้นไป ไปที่ [การตั้งค่า] > [การจัดการแอป] > [รายการแอป] > แตะที่ไอคอนจุด 2 จุด ที่มุมบนขวา > [แสดงระบบ] > [การจัดการการโทร] > [การใช้พื้นที่จัดเก็บ] > [ล้างข้อมูล]
สำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 6.1 ไปที่ [การตั้งค่า] > [การจัดการแอป] > [แสดงกระบวนการของระบบ] > [การจัดการการโทร] > [การใช้พื้นที่จัดเก็บ] > [ล้างข้อมูล]
*ขั้นตอนนี้ไม่สามารถทำได้ในสำหรับอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 3.2 และต่ำกว่า
7.อัปเดตซอฟต์แวร์โทรศัพท์ได้ที่ [ตั้งค่า] > [อัปเดตซอฟต์แวร์]/[อัปเดตระบบ] และรีสตาร์ทโทรศัพท์
8.ทำการทดสอบตามปกติ (ทางเลือกนี้สามารถทำได้ในอุปกรณ์ที่มี ColorOS เวอร์ชัน 3.2 ขึ้นไป) ไปที่ [การจัดการโทรศัพท์] > [การตรวจสอบส่วนประกอบ]/[การทดสอบตามปกติ] > [ตรวจสอบตอนนี้] เลือกที่ [เสียง] และปิดใช้งานส่วนประกอบอื่น ๆ แตะ [เริ่มตรวจสอบ] เพื่อดูว่าการทำงานของตัวรับเสียงหรือไมโครโฟนล้มเหลวหรือไม่
9.ใส่ซิมการ์ดของคุณในโทรศัพท์เครื่องอื่นเพื่อตรวจสอบว่า ยังมีปัญหาอยู่หรือไม่ ถ้าหากเปลี่ยนซิมการ์ดไปใส่ที่เครื่องอื่นแล้วยังมีปัญหา ขอแนะนำให้คุณติดต่อกับผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณ
หากยังคงมีปัญหาอยู่ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ OPPO หรือนำโทรศัพท์, หลักฐานการซื้อและใบรับประกันไปยังศูนย์บริการลูกค้า OPPO ที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ
ปัญหาในเรื่องของเสียงบนโทรศัพท์ นอกจากเรื่องของคุณภาพสัญญาณแล้ว เรื่องของไมโครโฟนและหูฟังก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น
โดยเฉพาะกับเรื่องของอาการ ไม่ได้ยินเสียง เสียงไม่ชัด เมื่อโทรออกหรือรับสายก็ตาม ซึ่งบางท่านอาจเจอปัญหาเมื่อใช้ไอโฟน FaceTime แล้วไม่ได้ยินเสียงหรือเสียงเบา ฟังไม่ค่อยชัด ก็คงต้องแก้ไขไปทีละจุด เพื่อตรวจเช็คและแก้ไขอาการได้อย่างถูกต้อง ซึ่งอาจเช็คตามขั้นตอนดังนี้
1. ตรวจดูสภาพภายนอกกันก่อน ว่าไม่มีสิ่งอื่นใด เข้าไปอุดตันภายในช่องเสียบแจ๊คหูฟัง ในกรณีที่ใช้ Earbud ของไอโฟน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดจากฮาร์ดแวร์พื้นฐาน
2. ต้องไม่มีสิ่งสกปรกมาอุดตันที่ช่องไมโครโฟน ตามช่องต่างๆ บนเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นช่องด้านหลังหรือด้านล่างของเครื่องก็ตาม เพราะไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สิ่งสกปรก บางส่วนของเคส
3. บางกรณีที่มีการติดฟิลม์รอบตัวเครื่อง ที่เป็นฟิลม์ติดกันรอย ก็มีโอกาสปิดกั้นช่องดังกล่าวอยู่ หากตรวจพบก็ควรทำการแก้ไขเบื้องต้นเสียก่อน แล้วลองใช้งาน
4. ต่อมาหากแก้ไขในส่วนของสิ่งที่อุดตันปิดกั้นเสียงแล้ว เสียงที่ได้ยังไม่ชัดหรือไม่ได้ยิน ให้ลอง Restart iPhone ก่อนครั้งหนึ่ง จากนั้นลองใช้งานดูอีกครั้ง
5. อีกทางหนึ่งคือการอัพเดตไอโฟนให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ก็มีส่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
6. การลองปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง จากตัวเครื่อง ว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่
หากทุกสิ่งอย่างที่เป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นไม่ได้หรือไม่ลดอาการเรื่องของเสียงไม่ชัด ไม่ได้ยินเสียงได้นั้น ก็คงต้องส่งเข้าศูนย์บริการ เพื่อรับการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ตามเดิมอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับคนที่ใช้มือถือ iPhone ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ๆ ทั้งมือเก่า และมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน หลายๆ คนอาจจะเคยเจอปัญหาไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราจากการโทรปกติ หรือแม้กระทั่งโทรผ่านในแอปฯ ก็ยังคงไม่ได้ยิน หรือถ้าใช้มานานแล้ว ก็อาจจะเจอกับอีกปัญหาคือโทรในไอโฟนเสียงเบา และเสียงหายไปเลยก็มี จนคิดว่าลำโพงอาจจะเสีย และต้องส่งร้านหรือส่งศูนย์เพื่อซ่อม แต่ความจริงแล้วเสียงที่ขาดหายไปนั้น อาจเกิดจากตัวเราเองที่ดันไปเผลอกดปิดการเข้าถึง หรือว่าใช้มานานจนมีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องไปถึงร้านซ่อมก็ได้ เดี๋ยววันนี้ทาง Specphone จะมาบอกวิธีทำด้วยตัวเองก่อน สำหรับใครที่เจอกับปัญหาไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราพูด หรือว่าไอโฟนเสียงเบา เสียงหาย โทรไลน์ไม่ได้ยินเสียง ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูก่อนได้เลย
ก่อนอื่นอย่าลืมว่าก่อนจะแก้ปัญหาไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราพูด ไอโฟนเสียงเบา เสียงหายหรือการโทรไลน์ไม่ได้ยินเสียงนี้ ต้องดูจากการใช้งานของตัวเองก่อนด้วย ว่าได้ทำเครื่องร่วงหล่น ตกน้ำ หรือไปกระแทกอะไรแรงๆ มาก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะเกิดอาการไอโฟนเสียงหาย เพราะถ้าเกิดการกระแทกแรงๆ อาจส่งผลให้ตัวลำโพงเสียหาย หรือพังไปเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าใช้งานปกติ แล้วไอโฟนเสียงหายไปเลย ก็ลองมาทำตามวิธีที่เราจะมาบอกกันก่อนก็ได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าวิธีเหล่านี้อาจจะไม่ได้ทำให้หาย 100% ขึ้นอยู่กับปัจจัยการใช้งานของแต่ละคน ก่อนที่เสียงจะหายไปด้วย พร้อมแล้วมาดูกันเลย
ปัญหาอย่างแรกสำหรับคนที่ใช้งานไอโฟน หลังจากที่ได้ซื้อมาใหม่เลยก็คือ ลองโทรแล้วอีกคู่สายไม่ได้ยินเสียงที่เราพูด ไม่ว่าจะเป็นการโทรปกติ หรือโทรผ่านแอปฯ ผ่านไลน์แล้วไม่ได้ยินเสียง สิ่งแรกที่ต้องดูเลยก็คือ “ฟิล์ม” ที่ติดมากับตัวเครื่อง หรือฟิล์มที่ให้ร้านติดมา อาจจะไปปิดช่องรับเสียงของตัวเครื่องได้ รวมไปถึงเคสที่ใช้งานอยู่ด้วย ที่เคสบางอันนั้นไปปิดช่องรับเสียงจากตัวเครื่องได้เช่นกัน
วิธีแก้ คือการตรวจสอบฟิล์ม และเคสรอบตัวเครื่องก่อน ว่าไปปิดตัวไมค์ของตัวเครื่องหรือไม่ ถ้ายังมีฟิล์มหรือที่ปิดอยู่ให้แกะออก และลองโทรใหม่ก็จะได้ยินเสียงที่หายไปแล้ว
ปัญหานี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่คนใช้งานไอโฟนส่วนมากจะต้องเจอ นั่นก็คือมีสิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอม เข้าไปติดอยู่ในช่องต่างๆ ของตัวเครื่อง ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆ ที่ยังมีช่องเสียบหู้ฟัง 3.5 อยู่ก็อาจจะมีฝุ่นที่เข้าไปติดหนาแน่นมากทำให้อีกฝ่ายไม่ได้ยิน หรือในรุ่นใหม่ๆ ที่เราโทรคุยแล้วได้ยินเสียงอีกฝ่ายเบามากๆ ก็เกิดจากสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันทางช่องลำโพงได้เหมือนกันนะ
วิธีแก้ คือให้เอาแปรงที่ไม่ได้ใช้แล้ว (ไม่ต้องชุบน้ำ) มาปัดตรงช่องลำโพงสักสองสามที หรือจนกว่าจะรู้สึกว่ามันไม่มีสิ่งสกปรกแล้ว และลองโทรคุยดูใหม่อีกครั้ง หรือถ้าไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราที่พูดออกไป ก็ให้ใช้คอตตอนบัดเล็กๆ เช็ดตรงช่องไมค์และลำโพง รับรองว่าเสียงที่เบานั้น จะกลับมาสดใสเหมือนเครื่องใหม่อย่างแน่นอน
อีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากตัวระบบของตัวเครื่องเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้บ่อยนัก แต่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงจากการโทร ทั้งจากทางเราและอีกฝ่ายได้เช่นกัน วิธีแก้ก็คือ การอัพเดทเวอร์ชั่นที่ใช้งานอยู่ ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด หรือถ้ายังไม่อยากอัพเดท ก็ให้ลองรีสตาร์ทเครื่องก่อน 1 ครั้ง จะรีสตาร์ทด้วยวิธีปกติ หรือจะ Force Restart ก็ได้ (ดูวิธีรีสตาร์ท iPhone) ถ้าทำแล้วหายก็ไม่จำเป็นต้องอัพเดท แต่ถ้าไม่หายก็ลองอัพเดทเวอร์ชั่นให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด และลองใช้งานใหม่อีกครั้ง
ข้อนี้เป็นปัญหาสำหรับคนที่เปิดเพลง หรือว่าเปิดลำโพงขณะที่คุยโทรศัพท์ แล้วรู้สึกว่าเสียงที่ออกมานั้นเบามากๆ ถึงแม้ว่าจะปรับจากปุ่มเพิ่ม- ลดเสียงดังสุดแล้วก็ตาม หรือไม่ก็เสียงที่ออกมาเหมือนเสียงลำโพงแตก อันนี้ก็อาจเกิดขึ้นจากตัวซอฟท์แวร์ได้เช่นกัน โดยจะเกี่ยวเนื่องไปกับการตั้งค่าเสียงของตัวเครื่อง ที่ทำให้โทนเสียงนั้นเบาลง วิธีนี้สามารถแก้ไขได้สองแบบ ด้วยการใช้แอปฯ เข้ามาช่วย หรือว่าตั้งค่าเองจากตัวเครื่องก็ได้
วิธีแก้ อย่างแรกคือแก้ด้วยแอปฯ ให้เราโหลดแอปฯ Music Hearing Assist มาใช้งาน (โหลดที่นี่) และให้เข้าไปตั้งค่าภายในแอปฯ จะมีฟีเจอร์ Volume Boots อยู่ภายในแอปฯ ก็ให้เข้าไปตั้งค่าจนกว่าจะได้เสียงที่ต้องการได้เลย อีกวิธีก็คือแก้จากตัวเครื่องเอง โดยการเข้าไปที่ ตั้งค่า -> เพลง -> EQ ซึ่งการตั้งค่านี้ถ้าใครที่ไม่เคยตั้งค่า มันจะขึ้นว่าปิดอยู่ ให้เรากดเข้าไปเลือกเป็น Late Night จะได้เสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ หรือถ้าไม่ถูกใจจะลองเลือกอันอื่นตามแบบที่เราชอบก็ได้ เพียงเท่านี้เสียงลำโพงที่ออกมาก็จะดีและดังกว่าเดิมแล้ว
ปัญหาของการโทรในบางแอปฯ แล้วไม่ได้ยินเสียง ถึงแม้ว่าการโทรปกติก็ยังได้ยินอยู่ แต่พอใช้แอปฯ อย่างไลน์ หรือแอปฯ ที่สามารถโทรคุยกันได้ อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย และคิดว่าลำโพงของเรานั้นเสียไปแล้ว ความจริงแล้วอาจเกิดจากการปิดการอนุญาตความเป็นส่วนตัว ที่เราเข้าไปกดปิดจากในไลน์ หรือในแอปฯ อื่นๆ ได้ด้วยเหมือนกัน วิธีแก้ในกรณีที่โทรไลน์แล้วไม่ได้ยินเสียงก็คือ ให้เข้าไปที่เมนู ตั้งค่า -> การโทร -> และกดอนุญาตให้เข้าถึง (Allow Voice Call) หรืออีกวิธีก็คือให้เข้าไปที่ตั้งค่าของเครื่องไอโฟนและเลือก ตั้งค่า -> ความเป็นส่วนตัว -> ไมโครโฟน จากนั้นจึงเข้าไปดูในแต่ละแอปฯ ว่าปิดไมโครโฟนเอาไว้หรือไม่ ถ้าแอปฯ ไหนที่ปิดไว้ก็กดเปิดการใช้งานได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถโทรผ่านแอปฯ ได้ปกติแล้ว
ขอแถมวิธีเช็คไมค์ให้หน่อย จะได้สะดวกต่อการแก้ไขเรื่องเสียงที่ดัง หรือว่าไม่ดังได้เลย ไม่จำเป็นต้องโทรไปหาใครหลายรอบเพื่อเช็คเสียง จะขอแบ่งการเช็คเป็น 3 เรื่องก็คือ เช็คเสียงการคุยทางโทรศัพท์ หรือ Facetime, เช็คเสียงเมื่อโทรด้วยการเปิดลำโพง และสุดท้ายคือเช็คเสียงการโทรไลน์ มีวิธีเช็คดังนี้
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็น 5 วิธีแก้ปัญหาไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเราเสียงเบา หรือเสียงหาย รวมไปถึงไอโฟน โทรไลน์ไม่ได้ยินเสียงได้แล้ว ส่วนใหญ่แล้วก็จะเกิดจากปัญหาการใช้งานของตัวเราเองทั้งนั้น จากการตั้งค่าต่างๆ แต่ก็เกิดได้จากตัวระบบของเครื่องได้ด้วยเช่นกันตามอายุการใช้งาน ถ้าเครื่องที่ใช้มานานมากแล้วลำโพงที่ใช้ก็อาจจะเบา ถึงต้องเข้าไปตั้งค่าให้เสียงดังกว่าเดิม แต่ถ้าใครที่ลองทุกวิธีแล้ว ยังไม่สามารถโทรคุยได้ปกติ ลำโพงหรือไมค์ที่ใช้งานอยู่ก็อาจจะเสียไปแล้วก็เป็นได้ แนะนำว่าให้ติดต่อสอบถามศูนย์บริการจาก Apple ได้ที่นี่ แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะเอามาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ
เสียงบนโทรศัพท์ นอกจากคุณภาพสัญญาณแล้ว ไมโครโฟนและหูฟังก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกับเรื่องของอาการ ไอโฟน ปลายสายไม่ได้ยินเสียงเรา เสียงไม่ชัด เมื่อโทรออกหรือรับสายก็ตาม ซึ่งบางท่านอาจเจอปัญหาเมื่อใช้ไอโฟน FaceTime แล้วไม่ได้ยินเสียงหรือเสียงเบา ฟังไม่ค่อยชัด เพื่อการตรวจเช็คและแก้ไขอาการได้อย่างถูกต้อง เช็คได้ตามขั้นตอนดังนี้
หากทุกสิ่งอย่างที่เป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นไม่ได้หรือไม่ลดอาการเรื่องของเสียงไม่ชัด ไม่ได้ยินเสียงได้นั้น ก็คงต้องส่งเข้าศูนย์บริการ เพื่อรับการซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ตามเดิมอีกครั้งหนึ่ง
อีกวิธีหนึ่งสำหรับปลายสาย หากเป็นผู้รับอาจใช้วิธีการตั้งค่า EQ หรือ Equalizer ในส่วนของ Sound ก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มเสียงออกลำโพงให้ดังขึ้นได้ โดยการทดลองปรับใช้รูปแบบที่เป็นค่าพื้นฐานในไอโฟน แล้วลองดูว่ารูปแบบใด จะช่วยให้เสียงลำโพงดังขึ้นได้มากกว่าเดิม
แต่ถ้าไมโครโฟนไม่ทำงานในบางแอพ